ดิจิทัล วอลเล็ต ดีจริงหรือ? โดย พรรคแรงงานสร้างชาติ
ดิจิทัลวอลเล็ตดีจริงหรือ? นายมนัส โกศล หัวหน้าพรรคแรงงานสร้างชาติ จัดสัมมนา ในประเด็น “นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ดีจริงหรือ” ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้เข้าสัมมนาที่ได้สำรวจความเห็นจากประชาชน ในต่างจังหวัด สรุปได้ว่า 1) กลุ่มคนทำงานอยากได้ใช้ทำทุนค้าขาย 2) กลุ่มผู้สูงอายุอยากให้ใช้เพื่อพัฒนาสิ่งที่ยั่งยื่นกว่า และหากดำเนินโครงการจริง ก็ขอเสนอให้ 1) เพิ่มเวลาโครงการ 2) เพิ่มพื้นที่ใช้เงินท้องที่ทำงานด้วย และ 3) มุ่งเน้นให้เกิดการจ้างงานเพิ่ม 4) ให้ลดเงื่อนไขและข้อยุ่งยากที่ไม่จำเป็น 5) ต้องไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง
วันที่ 3 ธันวาคม 2566 นายมนัส โกศล หัวหน้าพรรคแรงงานสร้างชาติ จัดสัมมนาคณะกรรมการบริหารพรรค และสาขาฯ ในประเด็น “นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ดีจริงหรือ” ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้เข้าสัมมนาที่ได้สำรวจความเห็นจากประชาชน ในต่างจังหวัด สรุปได้ว่า 1) กลุ่มคนทำงานอยากได้ใช้ทำทุนค้าขาย 2) กลุ่มผู้สูงอายุอยากให้ใช้เพื่อพัฒนาสิ่งที่ยั่งยื่นกว่า และหากดำเนินโครงการจริง ก็ขอเสนอให้ 1) เพิ่มเวลาโครงการ 2) เพิ่มพื้นที่ใช้เงินท้องที่ทำงานด้วย และ 3) มุ่งเน้นให้เกิดการจ้างงานเพิ่ม 4) ให้ลดเงื่อนไขและข้อยุ่งยากที่ไม่จำเป็น 5) ต้องไม่ทอดทิ้งใคร
กลุ่มคนทำงานที่ต้องการใช้เงินทุนเพื่อทำธุรกิจหรือการค้าขาย มีหลายกลุ่มแตกต่างกัน นักธุรกิจเล็ก ๆ, นักศึกษาที่ต้องการเริ่มธุรกิจของตนเอง, หาบเร่ แผงลอย วินมอเตอร์ไวด์ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ให้ความเห็นคล้ายๆกันว่า เงินจำนวน 10,000 บาท แม้จะไม่มากสำหรับบางคน แต่สำหรับตนที่เป็นคนหาเช้ากินค่ำ มีอาชีพขายของ การได้เงิน 10,000 บาท ถือเป็นเงินจำนวนมากที่จะนำไปทำทุนค้าขายเพิ่ม แต่ก็ติดปัญหาที่ไม่สามารถนำเงินไปซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ทำทุนได้
ในขณะที่ผู้สูงอายุส่วนมากก็กล่าวเหมือนกันว่า เห็นด้วยกับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาทนี้ เพราะสามารถซื้อของใช้ในครอบครัวได้ แต่ถ้าหากเป็นไปได้ ตนอยากให้รัฐนำเงินไปใช้ในการพัฒนาสิ่งที่จะทำให้ประเทศยาวนานกว่านี้ อาจเป็นเรื่องการช่วยปลดหนี้ กยศ ชำระหนี้ กยศ เฉลี่ย 120,000 บาท/คน ได้ 4,666,666 คน หรือ สร้างโรงพยาบาลมาตรฐานสูง 500 เตียง ได้ 56 แห่ง หรือ จ้างพนักงานรัฐ เงินเดือน 15,000บาท 500,000 คน ได้ 6.2 ปี ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาส และสร้างงานให้คนรุ่นใหม่ได้จำนวนมาก หรืออาจทำประกันสังคมมาตรา 40 จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน ได้ช่วยเหลือประชาชน10 ล้านคน ให้มีประกันสุขภาพได้ยาวนานถึง 16 ปี
กลุ่มคนต่างจังหวัดให้ความเห็นต่อว่า การให้เงินจำนวน 10,000 บาทต่อคน เป็นเรื่องดีที่ทำให้ชาวบ้านมีเงินใช้ในยามเดือดร้อน แต่รัฐบาลต้องดูแลเรื่องราคาของกินของใช้ที่อาจแพงขึ้นด้วย หากแจกเงินแต่ราคาของขึ้น เมื่อเงินหมด แต่ราคาสินค้าไม่ลดลง จะทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมากกว่าเดิม
แต่ถ้ารัฐบาลยืนยันเดินหน้าโครงการดังกล่าวจริง ก็มีข้อเสนอแนะให้ดูแลดังนี้ 1) เพิ่มเวลาโครงการ ให้มากกว่า 6 เดือน 2) เพิ่มพื้นที่ใช้เงินในท้องที่ทำงานด้วยเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้จ่าย โดยอาจให้สิทธิในการระบุท้องที่ที่จะใช้เงิน 3) มุ่งเน้นให้เกิดการจ้างงานเพิ่มมากกว่าการให้เงินใช้จ่ายโดยที่ประชาชนไม่ได้สร้างประโยชน์ตอบแทนให้รัฐ 4) ให้ลดเงื่อนไขและข้อยุ่งยากที่ไม่จำเป็น 5) ต้องไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง 6)ดูและราคาสินค้าไม่ให้เพิ่มขึ้นทั้งขณะดำเนินโครงการและหลังจากจบโครงการแล้ว